ข้อเสนอดับไฟใต้ด้วยวิถีแห่งปฏิรูปการปกครอง

ระยะแรก

1.ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการยกระดับผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้เทียบเท่าปลัดกระทรวง และควรให้ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรดังกล่าวเป็นผู้ที่มาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแท้จริง.

2.ให้นำรัฐธรรมนูญ มาตรา 87 ว่าด้วยแนวนโยบายด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนมาปรับใช้ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในระดับชาติและระดับท้องถิ่น.

ระยะกลาง

1.ให้การบริหารราชการส่วนภูมิภาคมีอำนาจหน้าที่และรับผิดชอบเฉพาะในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและอำนวยความยุติธรรม.. ส่วนการพัฒนาจังหวัด ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา ศาสนา วัฒนธรรมและด้านอื่นๆ ให้เป็นอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น.

2.ให้จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ.

3.โดยให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความสงบอื่นๆ ขึ้นตรงต่อผู้ว่าราชการจังหวัด.

4. กระบวนการยุติธรรมเพื่อนำคนกระทำผิดขึ้นสู่ศาล และการสอบสวนของตำรวจจะต้องมีฝ่ายอัยการและฝ่ายปกครองร่วมสอบสวน เพื่อให้เกิดการถ่วงดุลกัน.

5.เปลี่ยนแปลง ศอ.บต.ให้เป็นสภาผู้ทรงคุณวุฒิ อันประกอบด้วยตัวแทนจากองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนต่างๆ ตลอดจนผู้ทรงความรู้ทางศาสนาและปราชญ์ชาวบ้านในท้องถิ่นที่ประชาชนเคารพนับถือ  ทำหน้าที่ให้คำปรึกษา แนะนำต่อผู้ว่าราชการจังหวัด  นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น.

6.ให้มีศาลชารีอะฮ์เพื่อตัดสินคดีความที่มีมุสลิมเป็นคู่กรณี แยกจากศาลทั่วไป.

7.ยกเลิกกฎอัยการศึก การประกาศภาวะฉุกเฉิน.

ระยะต่อไป

1. ยกเลิกการบริหารราชการส่วนภูมิภาค.

2.ราชการส่วนท้องถิ่นมีอำนาจในการออกกฎ ระเบียบใดๆ เพื่อใช้ในการปกครองส่วนท้องถิ่น.

3.การรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน การยุติธรรม การคลัง การบรรจุแต่งตั้ง การเศรษฐกิจ การศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม และอื่นๆ เป็นเรื่องที่การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้กำหนด.

4.การรักษาความมั่นคงของประเทศ การต่างประเทศ ธนาคารกลาง การพัฒนาด้านต่างๆ ที่เป็นระดับใหญ่กว่าท้องถิ่น หรือคาบเกี่ยวกันระหว่างท้องถิ่น ตลอดจนด้านอื่นๆ ที่เป็นการดูแลภาพรวมของประเทศ เป็นอำนาจหน้าที่ของราชการส่วนกลาง.

อับดุชชะกูรฺ บิน ชาฟิอีย์  (อับดุลสุโก ดินอะ)

โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา